นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีและนักลงทุนชาวอเมริกัน กล่าวว่า การเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังและการใช้มาตรการรัดเข็มขัดยังไม่เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาหนี้สิน ยูโรโซนต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
นายโซรอสกล่าวระหว่างร่วมประชุมกับที่ประชุมเศรษฐกิจโลกว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนเกิดขึ้นเพราะการออกแบบสกุลเงินยูโรมีข้อบกพร่อง "สนธิสัญญามาสทริชต์ก่อให้เกิดสหภาพการเงินที่ปราศจากสหภาพการเมือง สกุลเงินยูโรทำให้เกิดธนาคารกลางร่วมกันแต่ปราศจากกระทรวงการคลังร่วมกัน" นายโซรอสกล่าว
นอกจากนั้นนายโซรอสยังกล่าวว่า เมื่อมีการก่อตั้งสกุลเงินยูโร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยอมรับพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมดด้วยเงื่อนไขที่เท่าเทียมกัน ส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งสามารถกว้านซื้อพันธบัตรของประเทศที่อ่อนแอกว่าเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นเล็กน้อย
การกระทำดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศแตกต่างกัน และทำให้เยอรมนีมีความสามารถในการแข่งขันมากกว่าประเทศอื่น และเกิดภาวะฟองสบู่มากขึ้นในประเทศรายย่อย
ขณะเดียวกันเขาวิจารณ์การตอบสนองต่อปัญหาอย่างเชื่องช้าของยูโรโซนและการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดกับกรีซ นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่าการที่อีซีบีใช้มาตรการปล่อยกู้ระยะยาว (LTRO) เป็นการซื้อเวลา แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นตอ
นายโซรอสกล่าวว่า การบรรลุข้อตกลงด้านการคลังในการประชุมสุดยอดอียูครั้งล่าสุดถือว่าเดินมาถูกทางแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ "อย่างไรเสียยูโรโซนก็ต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน