ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินดอลล์ร่วงหลังเฟดยืนยันตรึงดอกเบี้ยต่ำถึงปี 57

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 26, 2012 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557 พร้อมกับส่งสัญญาณความพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.71% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.3113 ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3021 ยูโร และพุ่งขึ้น 0.33% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.5664 ปอนด์ จากระดับ 1.5613 ปอนด์

ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 77.710 เยน จากระดับ 77.700 เยน แต่ร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9208 ฟรังค์ จากระดับ 0.9280 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.23% แตะที่ 1.0606 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0477 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.95% แตะที่ 0.8181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8104 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงทันทีที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2557

ทั้งนี้ แม้การตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ ซึ่งคำยืนยันของเฟดครั้งล่าสุดนี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันไปถือครองสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าและให้ผลตอบแทนมากกว่า เช่นยูโรและสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย

แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจใจปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ซบเซาในระยะกลางแล้ว เฟดคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะเอื้ออำนวยให้เฟดสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปี 2557 นอกจากนี้ เฟดยังระบุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% และคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.2 - 2.7% ในปี 2555 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในการประชุมเดือนพ.ย.ที่ระดับ 2.5 - 2.9%

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 หดตัวลง 0.2% จากไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 0.6% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินปอนด์ในระหว่างวัน ก่อนที่เงินปอนด์จะดีดตัวขึ้นในช่วงท้าย

นักลงทุนติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการอำนวยการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือครองพันธบัตรกรีซ โดยที่ประชุมกำลังเพื่อหารือว่าจะเดินหน้าเจรจาเรื่องสวอปพันธบัตรหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น

การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กรีซได้ประสบกับภาวะชะงักงันมาตั้งแต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสำหรับพันธบัตรชุดใหม่ที่จะมีการออกมาแทนพันธบัตรล็อตเก่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง โดยรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของพันธบัตรชุดใหม่ไว้ต่ำกว่า 4% ขณะที่เจ้าหนี้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่เหนือ 4%

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ 370,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 352,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า

ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554 ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.0% เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.8% ในไตรมาส 3/2554


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ