สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2557
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 26.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,726.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1727.3 - 1718.5 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 62.2 เซนต์ ปิดที่ 33.743 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.2 เซนต์ ปิดที่ 3.9015 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 694.45 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 37.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,616.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำยังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปจนถึงปลายปี 2557 ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะชะงักงัน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "เฟดกำลังส่งสัญญาณว่าจะยังคงรักษาจุดยืนในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายมากขึ้นในอนาคตด้วย ซึ่งการใช้มาตรการผ่อนคลายจะก่อให้เกิดแรงกดด้านด้านเงินฟ้อ และเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ ทองคำก็จะเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน"
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ