ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซี ของฝรั่งเศสได้เปิดเผยแผนการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.32 พันล้านดอลลาร์) ผ่านทางธนาคารพาณิชย์ ไปยังธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน
"เราต้องสร้างกิจกรรมในฝรั่งเศสและเพื่อให้มีศักยภาพด้านการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ" นายซาร์โคซีกล่าว พร้อมกับเน้นถึงความจำเป็นในการก่อตั้งธนาคารสำหรับอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์นี้
"ธนาคารดังกล่าวจะเป็นธนาคารเพื่อบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากผู้นำธุรกิจหลายรายได้บอกผมทุกวันว่าธนาคารพาณิชย์ ไม่ได้ปล่อยเงินกู้อย่างพอเพียง แต่ปล่อยในยอดที่สูงเกินไป" นายซาร์โคซีกล่าวเสริม
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศสนั้น ปธน. ซาร์โคซีได้ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1.6% เป็น 21.2% เพื่อสมทบกองทุนสวัสดิการสังคม โดยภาษีดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า "ภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อสังคม" เป็นมาตรการออกใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป และมีจุดประสงค์เพื่อลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาที่หักจากเงินเดือนลงและเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้สหภาพการค้าและพรรคฝ่ายค้านของฝรั่งเศสได้ประณามมาตรการ "ต่อต้านสังคม" ซึ่งคาดว่าจะผลักภาระไปยังกลุ่มผู้ที่ด้อยโอกาสและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง