นายอานูป ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกประจำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆในเอเชีย รวมทั้งจีนด้วยนั้น มีมาตรการที่เพียงพอในการรับมือกับผลกระทบอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ในยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายซิงห์มองว่า แม้ว่าจะเกิดวิกฤตหนี้ในยูโรโซน ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเสี่ยงต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก แต่โดยทั่วไปแล้วเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในเอเชียสามารถปรับตัวรองรับกับความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลกได้ ทั้งยังช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้อีกด้วย
นายซิงห์เผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคและในประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอลงจนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของการส่งออก
อย่างไรก็ตาม นายซิงห์ระบุว่า จีนจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอยอย่างแน่นอน แม้ว่าจีนและประเทศอื่นๆในเอเชียจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่ลุกลามมาจากวิกฤตหนี้ในยูโรโซนก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนารายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการดำเนินนโยบายที่จะสามารถยืดหยุ่นรับมือกับสภาพความไม่แน่นอนได้
นายซิงห์ระบุว่า ประเทศในเอเชียเหล่านั้นมีหนี้สาธารณะในระดับต่ำ และยังสามารถออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อที่จะส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจและโครงข่ายความปลอดภัยในสังคมได้ในกรณีที่ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถลำเข้าสู่ภาวะถดถอยกลายเป็นจริงขึ้นมา
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เอเชียจะยังคงเติบโตได้อย่างสดใส ท่ามกลางแนวโน้มการขยายตัวทั่วโลกที่ซบเซาอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 8.2% ในปี 2555 และ 8.8% ในปี 2556