สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่สามารถบรรลุข้อตกลงการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังฉบับใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดในแดนบวก แม้ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรับก็ตาม
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,740.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1750.0 - 1736.0 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 26.5 เซนต์ ปิดที่ 33.262 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค. 3.65 เซนต์ ปิดที่ 3.79 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 686.35 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 28.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,588.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่า ที่ประชุมผู้นำอียูได้ลงมติให้มีการใช้สนธิสัญญาการคลังฉบับใหม่ เพื่อคุมเข้มวินัยด้านการคลัง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในกลุ่มเยาวชนในยูโรโซน โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะ ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้ลงมติรับรองสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
สัญญาทองคำได้แรงหนุนมากขึ้น หลังจากที่นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสของกรีซเผยว่า เขาจะพยายามเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งส่งสัญญาณว่ากรีซมีแนวโน้มว่าจะได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือรอบ 2 และอาจจะสามารถรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แต่สัญญาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากสกุลเงินยูโรเริ่มอ่อนแรงลง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงหุ้นและสกุลเงินยูโร และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า