ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง เหตุนักลงทุนวิตกเจรจาหนี้กรีซยืดเยื้อ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 1, 2012 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซยังคงยืดเยื้อจนถึงขณะนี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำไปจนถึงปลายปี 2557

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.28% แตะที่ 1.3088 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3125 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.39% แตะที่ 1.5763 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5701 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.17% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.160 เยน จากระดับ 76.290 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9197 ฟรังค์ จากระดับ 0.9179 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.25% แตะที่ 1.0616 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0589 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.79% แตะที่ 0.8252 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8187 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เพราะทั้งรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ ในขณะที่กรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข่าวที่ว่า ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติให้มีการใช้สนธิสัญญาการคลังฉบับใหม่ แต่ปัจจัยบวกดังกล่าวได้ถูกสกัดด้วยรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า อัตราว่างงานของประเทศกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.4% ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโยงได้รับแรงกดดันจากหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ขู่ว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกจำนวนหนึ่งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป หรือกลุ่ม G-20 ภายในปี 2558 ถ้าหากรัฐบาลของประเทศกลุ่มนี้ไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับประชากรสูงวัย

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงนับตั้งแต่เฟดส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ไว้จนถึงปลายปี 2557 และยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 61.1 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 167,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือนม.ค. เนื่องจากภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวและสามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยุโรปได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ