(เพิ่มเติม) นายกฯ ตั้งเป้า GDP ปีนี้โต 5% ฟื้นเป็น V shape,ทุกภาคกลับสู่ปกติ Q2/55

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 1, 2012 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันให้เศรษฐกิจปี 55 ขยายตัวได้ถึง 5% โดยการเติบโตจะเป็นลักษณะ V shape ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจทุกภาคจะฟื้นตัวกลับสู่ปกติภายในไตรมาส 2/55 หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 54 แต่จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นกับความร่วมมือของทุกภาคส่วน และรัฐบาลจะระดมทุกสรรพกำลังในการกอบกู้เศรษฐกิจ

"มั่นใจในพื้นฐานของประเทศไทย ความรักความสามัคคีถือเป็นพื้นฐานสำคัญ เห็นได้จากน้ำท่วมที่มีธารน้ำใจคนไทยอยู่ไม่น้อย และตอนนี้ขอแรงคนไทยมาร่วมฟื้นฟูประเทศอีกครั้ง เพราะอยากเห็นเศรษฐกิจเติบโตเป็น V shape"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวในการสัมมนา"ถอดรหัสจีดีพีปี 55"

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้จะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การส่งออกที่จะต้องกระจายตลาดไปสู่ตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย หรือภายในอาเซียน เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปปที่กำลังมีปัญหา ขณะเดียวกันรัฐบาลจะพยายามเร่งจัดการข้อตกลงเอฟทีเอกับประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น ให้มีข้อสรุปทั้งหมดภายในกลางปี 55 เพราะหากมีการเจรจาเอฟทีเอได้มากขึ้นก็จะเป็นประโฌยชน์ต่อการค้าการลงทุนในประเทศไทย

ส่วนภาคการลงทุน ไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจด้านเกษตรกรรมและบุคลากรที่ดีและยังมีจุดเด่นที่มีพื้นที่เชื่อมต่อคมนาคมไปนยังประเทศอื่น ๆ รอบด้าน ซึ่งต่างชาติมองไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการเชื่อมต่อในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องพัฒนาด้านโคงงสร้างพื้นฐานให้มีการเชื่อมต่อการคมนาคมทั้งในประเทศ และเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศที่มีความเจริญด้านการค้าและการลงทุน

รัฐบาลได้วางแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในปี 55-59 โดยใช้งบประมาณ 2.27 ล้านล้านบาท ได้แก่ การปรับปรุงเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อเพื่อนบ้าน ด้วยการสร้างถนนไฮเวย์จากพม่าผ่านไทยไปยังลาวและเวียดนาม รวมถึงการทำจุดเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวายของพม่าและยังท่าเรือแหลมฉบัง การพัฒนารถไฟความเร็วสูงจากจีนผ่านไทยไปยังลาว และการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในประเทศ

ส่วนการกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ภาคครัวเรือน รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นให้คนมีรายได้ต่อครัวเรือนสูงขึ้น ผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ การปรับโครงสร้างภาษีเงินได้นิติบุคคลลดเหลือ 23% ในปีนี้และจะลดลงเหลือ 20% ในปีหน้า และนโยบายเพิ่มรายได้ขั้นต่ำ 300 บาทในเดือน เม.ย. ปรับเงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาทตั้งแต่ 1 ม.ค.55 รวมถึงมาตรการรับจำนำข้าว กองทุนหมู่บ้าน กองทุนเอสเอ็มแอล และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

นายกรัฐมนตรี ยังมองว่าในปี 55 ยังมีปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจใน 3 ด้าน คือ ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ที่หลายประเทศมีความเห็นสอดคล้องกันว่าคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ง่าย ทำให้หลายประเทศหันมาพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น โดยความเปราะบางของเศรษบกิจสหรัฐและยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน แต่อีกด้านอาจเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้น และ ปัจจัยเสี่ยงเรื่องภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะความแปรปรวนของสภาพอากาศ โดยขณะนี้รัฐบาลมีแผนออก พ.ร.ก.เพื่อเตรียมกู้เงินมาบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ไม่รวมงบประมาณฉุกเฉิน 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นสิ่งทีต้องทำให้ต่างชาติได้เห็นแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะเป็นห่วงว่าอาจจะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศคู่แข่งได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ