นายนิโคลัส ลาร์ดี สมาชิกอาวุโสจากสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า จีนสามารถผ่านพ้นวิกฤติการเงินโลกได้อย่างประสบความสำเร็จ แต่จีนจะต้องดำเนินการปฏิรูปเชิงพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและมีส่วนช่วยทั้งโลกฟื้นตัว
นายลาร์ดีกล่าวในงานเปิดตัวหนังสือชื่อ "Sustaining China's Economic Growth After the Global Financial Crisis" ว่า ในขณะที่ส่วนอื่นของโลกได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดในรอบหกทศวรรษ จีนได้ดำเนินการเชิงรุกในการเผชิญกับวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจชะลอตัว โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนได้ชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 9.2% ในปี 2552
นายลาร์ดีเขียนถึงเรื่องดังกล่าวในหนังสือเล่มใหม่ของเขาว่า ถึงแม้เศรษฐกิจจะแข็งแกร่ง จีนก็ยังคงต้องใช้รูปแบบการขยายตัวแบบใหม่ หากจีนต้องการให้มีอัตราการขยายตัวอย่างยั่งยืนในระดับใกล้เคียงกับระยะที่ผ่านมา รวมทั้งการแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจต่างๆ
ทั้งนี้ ความไม่สมดุลดังกล่าวประกอบไปด้วย การใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สัดส่วนของการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภาคการผลิตที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป และการหดตัวลงของภาคบริการ สำนักข่าวซินหัวรายงาน