เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า แนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐนั้นยังคงไม่มั่นคง ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
เบอร์นันเก้กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปจากภาวะถดถอยรุนแรง แต่อัตราการฟื้นตัวยังคงอยู่ในระดับที่ช้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากมุมมองของประชาชนหลายล้านคนทั้งที่มีงานทำและว่างงาน
การขยายตัวอย่างเชื่องช้าเช่นนี้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะทรุดตัวลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงภาวะสะดุดของห่วงโซ่อุปทานที่เป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว, การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ และการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป เบอร์นันเก้กล่าว
ประธานเฟดกล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้น ข้อมูลด้านการใช้จ่าย, การผลิต และกิจกรรมในตลาดแรงงาน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในระดับหนึ่ง แต่แนวโน้มก็ยังคงไม่แน่นอน และจำเป็นอย่างยิ่งที่เฟดจะต้องติดตามความคืบหน้าทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดควรจะปรับสมดุลในด้านความพยายามที่จะสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังและหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นในสหรัฐ
"แม้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายด้านการคลังจะออกมาตรการเร่งด่วนในการเสริมสร้างสถานะการคลังให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน แต่พวกเขาก็ควรให้ความสนใจในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า เป้าหมายการสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังในระยะยาวและการหลีกเลี่ยงภาวะการคลังหดตัวนั้น ถือเป็นภารกิจที่ต้องทำควบคู่กันไปและต้องเอื้ออำนวยต่อกันและกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน