นายสิงห์ชัย บุณยโยธิน ผู้อำนวยการ สำนักตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท.จะปล่อยให้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เคลื่อนไหวตามทิศทางของกลไกลตลาด โดยจะทยอยลดการเข้าแทรกแซงเพื่อกำหนดทิศทางของตลาด ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากที่สุด แต่ ธปท.ต้องการให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีเวลาในการปรับตัว จึงทำให้ยังเข้าไปดูแลค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา
“ต่อไป ธปท.จะปล่อยให้กลไกตลาดทำงานได้ดีขึ้น คือเวลาเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าก็ปล่อยให้มีคนเข้ามาขายเอง แต่ถ้าแข็งค่าก็ปล่อยให้คนเข้ามาซื้อเอง เพื่อให้เป็นไปตามการพัฒนาของตลาดโลกที่จะเห็นว่าค่าเงินโลกก็มีความผันผวน ไม่เป็นไปในด้านใดด้านหนึ่งเช่นกัน เงินทุนจึงมีทั้งไหลเข้าและไหลออก ระดับการเคลื่อนไหวก็ค่อนข้างกว้างถือเป็นว่ามีความสมดุลมากขึ้น" นายสิงห์ชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ค่าเงินบาทตลอดปี 55 น่าจะยังมีความผันผวนมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มเห็นแรงกดดันจากความผันผวนของค่าเงินยูโรที่มีค่าความผันผวนต่อวันอยู่ที่ประมาณ 6% เร่งตัวจากระดับ 3% แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ หากเทียบกับภูมิภาคที่มีค่าความผันผวนมากกว่า 10% ดังนั้น จึงเป็นระดับที่ ธปท.ไม่กังวล
ประกอบกับ ที่ผ่านมาภาคธุรกิจก็เริ่มมีการปรับตัวรับกับสถาณการณ์ความผันผวนของค่าเงินได้ดียิ่งขึ้น เพียงแต่ให้ความเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนของภาคธุรกิจนั้น ขณะนี้ยังมองไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากในปีก่อนธุรกรรมดังกล่าวปรับลดลงมากตามการส่งออกที่ชะลอการเติบโตลง ในขณะที่ปีนี้การส่งออกยังอยู่ในช่วงค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
“ค่าเงินบาท ค่อนข้างผันผวนไปตามยูโรที่ผันผวนค่อนข้างมาก แต่ความผันผวนในช่วงที่ผ่านมาคนก็ปรับตัวได้ดี ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่าไม่สูง เช่น อินเดียช่วงสิ้นปีที่แล้วอ่อน 10% ต้นปีแข็งขึ้นเยอะ 6% กว่า เราต้นปี 1.7% เราเกาะติดในกลุ่มแข็ง มาเลเซีย 2% กว่า จึงไม่น่ากังวลมาก"นายสิงห์ชัย กล่าว