นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ปี 55 ภาคธุรกิจประกันชีวิตยังคงเดินหน้าเพื่อรักษาระดับอัตราการเติบโตให้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครอง การออม และการลงทุน รวมถึงการบริการที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งสมาคมตั้งเป้าหมายว่าหากไม่มีวิกฤตมหาอุทกภัยหรือปัญหารุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นอีก อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 55 จะประมาณร้อยละ 15
ณ วันสิ้นปี 54 อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตไทย เป็นไปตามความคาดหมาย คือ เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ซึ่งเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าภาคธุรกิจประกันชีวิตต้องเผชิญกับวิกฤตมหาอุทกภัยเช่นเดียวกับภาคธุรกิจอื่นๆ จนสาขาของบริษัทประกันชีวิตบางแห่งไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่จีดีพีหรือผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ ขยายตัวประมาณร้อยละ 3
สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับรวมระหว่างมกราคม-ธันวาคม 2554 มีทั้งสิ้น 328,596.7 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันจากปีก่อนร้อยละ 10.9 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 98,521.2 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป 230,075.5 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 86
ขณะเดียวกันเบี้ยประกันชีวิตเติบโตถึงร้อยละ 10.9 การเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบเฉพาะรายไตรมาสของปี 54 และปี 53 พบว่า ในปีไตรมาส 1/54 เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 ไตรมาส 2/54 เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 ไตรมาส 3/54 และไตรมาส 4/54 เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 และ 6.6 ตามลำดับ เนื่องมาจากจำนวนเบี้ยประกันชีวิตที่เติบโตในเกณฑ์ดีจาก 3 ไตรมาสแรกของปีสามารถชดเชยกับไตรมาสสุดท้ายได้