นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมกราคม 2555 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา จาก 21.2 เป็น 24.2
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 11.2 เป็น 14.6 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ในอนาคต (3 เดือน) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 27.8 เป็น 30.6
ค่าดัชนีทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทั่วไปกลับสู่ภาวะปกติภายหลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ อีกทั้งรัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูและเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและผู้ได้รับผลกระทบ โดยเร่งจ่ายเงินค่าชดเชยแก่ผู้ประสบภัยและเกษตรกร การออกนโยบายเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(Soft loan) รวมทั้งคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25
แต่ค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศอยู่ โดยเฉพาะต่อปัญหาค่าครองชีพ การปรับขึ้นราคาน้ำมันและพลังงาน รวมทั้งปัจจัยลบด้านความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภัยธรรมชาติ
ส่วนค่าดัชนีในด้านต่างๆ พบว่า ผู้บริโภคมีความคาดหวังต่อรายได้ในอนาคตเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลง อีกทั้งการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่โอกาสในการหางานทำในปัจจุบันและอนาคตยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งประชาชนยังมีความกังวลและไม่มั่นใจเศรษฐกิจภายในประเทศ
ความเชื่อมั่นในด้านการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในปัจจุบันและอนาคต ยังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากประชาชนยังต้องจับจ่ายใช้สอยสินค้าเพื่อซื้ออุปโภคบริโภคแม้ว่าจะลดลงในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ด้านการวางแผนซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าคงทนต่างๆ(ยกเว้นบ้านและรถยนต์) ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจในการซื้อสินค้าคงทนถาวร ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นการซื้อมาเพื่อทดแทนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายจากน้ำท่วมเป็นส่วนใหญ่