กองทุนการเงินระหว่าประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจที่ถดถอยลงอย่างรุนแรงในยุโรปอาจจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของจีนทรุดตัวลงถึง 4% มาอยู่ที่ระดับ 4% ในปีนี้
-- หนังสือพิมพ์ฮูสตัน โครนิเคิล รายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่นอกชายฝั่งสหรัฐยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกเมื่อปี 2553 เนื่องจากธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้ต้องปลดพนักงานและย้ายออกจากสถานที่ ในขณะที่การออกใบอนุญาตเพื่อทำการขุดเจาะในเขตน้ำลึกของรัฐบาลมีจำนวนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
-- บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามรับรองคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่ออายัดทรัพย์สินของอิหร่านทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐ ซึ่งนับเป็นการดำเนินมาตรการอีกขั้นเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยคำสั่งดังกล่าวกำหนดว่าทรัพย์สินและผลกำไรทั้งหมดของอิหร่านซึ่งอยู่ในดินแดนของสหรัฐ เช่นทรัพย์สินของธนาคารกลางอิหร่านนั้น จะต้องถูกอายัด และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
-- ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารมีเป้าหมายที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา
-- กระทรวงเศรษฐกิจความรู้เกาหลีใต้ ระบุในรายงานวันนี้ว่า ยอดส่งออกสินค้ากลุ่มไอทีปรับตัวลดลงในเดือนม.ค. เนื่องจากราคาสินค้าประเภทหลักๆ อาทิ เมมโมรีชิป และจอภาพ ร่วงลงต่อเนื่อง
-- สหรัฐประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจพม่าเป็นบางส่วน เพื่อเปิดทางให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟและสถาบันการเงินข้ามชาติอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือพม่าได้
-- สำนักงานสถิติกลางของอินเดียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจประเทศอาจขยายตัว 6.9% ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2555 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าขยายตัวช้าสุดนับตั้งแต่ปี 2552 และอาจกดดันให้ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจลดดอกเบี้ย
-- ธนาคารยูบีเอส ธนาคารใหญ่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรสุทธิของไตรมาส 4 ปี 2554 ร่วงลงสู่ระดับ 393 ล้านฟรังก์สวิส (425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังเกิดเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับการฉ้อโกงด้านการซื้อขาย มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรสุทธิประจำปีงบการเงินล่าสุดซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2554 อีก 11.1% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 2 แสนล้านเยน โดยให้เหตุผลว่าบริษัทความคืบหน้าอย่างมากในการใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดต้นทุน
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.9% ในเดือนมกราคม 2555 จาก 4.2% ในเดือนธันวาคม 2554 และต่ำกว่าระดับ 4.1% ในเดือนเดียวกันของปีก่อน