สื่อท้องถิ่นอิหร่านรายงานว่า รัฐสภาอิหร่านเตรียมลงนามรับรองร่างกฎหมายยุติการส่งออกน้ำมันไปยังบางประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
สำนักข่าวซินหัวรายงานคำเปิดเผยของนายอาลี ลารีจานี โฆษกประจำรัฐสภาอิหร่านว่า ฝ่ายนิติบัญญัติอิหร่านยังคงจับตาประเด็นสำคัญอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็รวมถึงการห้ามอิหร่านส่งออกน้ำมันไปยังบางประเทศในยุโรปด้วย
นายลารีจานีกล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติและคณะกรรมาธิการนโยบายต่างประเทศได้หารือประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า จำเป็นที่จะต้องตอบโต้ “ทัศนคติที่ไร้เหตุผล" ของประเทศต่างๆในยุโรป
ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านได้เรียกร้องให้สภานิติบัญญัติเพิ่มมาตรการในการระงับการส่งออกน้ำมันไปยังบางประเทศในกลุ่มอียู
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการแล้วในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์
และล่าสุดในวันนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้ลงนามรับรองคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่ออายัดทรัพย์สินของอิหร่านทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐ ซึ่งนับเป็นการดำเนินมาตรการอีกขั้นเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยคำสั่งดังกล่าวกำหนดว่าทรัพย์สินและผลกำไรทั้งหมดของอิหร่านซึ่งอยู่ในดินแดนของสหรัฐ เช่นทรัพย์สินของธนาคารกลางอิหร่านนั้น จะต้องถูกอายัด และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
"ผมตัดสินใจที่จะใช้การคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการเปิดโปงการกระทำที่หลอกลวงของธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ของอิหร่านที่ปกปิดการทำธุรกรรมของกลุ่มที่ถูกคว่ำบาตรไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งเปิดโปงความบกพร่องด้านการปราบปรามการฟอกเงินของรัฐบาลอิหร่าน และความเสี่ยงที่มีผลต่อระบบการเงินะระหว่างประเทศ" โอบามากล่าวในแถลงการณ์