สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซจะสามารถทำข้อตกลงเรื่องการรับความช่วยเหลือรอบสอง ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1% แตะที่ 1.3262 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3131 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.50% แตะที่ 1.5901 ดอลลาร์สหรับ จากระดับ 1.5822 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 76.780 เยน จากระดับ 76.560 เยน แต่ดิ่งลง 0.79% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9112 ฟรังค์ จากระดับ 0.9185 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.71% แตะที่ 1.0803 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0727 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.19% แตะที่ 0.8354 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8338 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ และคาดว่าการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่นั้น จะมีความคืบหน้าเช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซใกล้จะถึงกำหนดต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค.นี้
ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสในช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563
นีลี โครเอส สมาชิกคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ De Volkskrant ของเนเธอร์แลนด์ว่า หากกรีซจำต้องออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนก็จะไม่ได้ส่งผลร้ายแรงถึงขั้นต้องยุบกลุ่มสกุลเงินดังกล่าวนี้แต่อย่างใด
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจาก เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงปกป้องนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดเล็งเห็นความจำเป็นในการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเบอร์นันเก้ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 0.64% แตะที่ 78.56 จุดเมื่อวานนี้
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.