(เพิ่มเติม) ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคม.ค.55 ที่ 64.0 จาก 63.1 ในธ.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 9, 2012 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนม.ค.55 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 64.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ อยู่ที่ 65.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 93.1

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในทุกรายการ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลงและกลับสู่ภาวะปกติ

สำหรับปัจจัยบวก ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากภาครัฐและสถาบันการเงินในการฟื้นฟูหลังน้ำลด, คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%, คณะรัฐมนตรีอนุมัติปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อเดือนพ.ย.54 โดยคาดว่าปีนี้จะขยายตัวถึง 5%

ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น, ผู้บริโภคยังกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง, กังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลงกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมกับมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมที่คาดว่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 55 สามารถขยายตัวได้ 4.5-5% ประกอบกับในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนส่งผลให้มีกระแสการใช้จ่ายตามเทศกาลมากกว่าสถานการณ์ปกติ

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ มองว่า การบริโภคของประชาชนในปัจจุบันจะยังชะลอตัวลงจนถึงกลางไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากประชาชนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำท่วม ตลอดจนค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่การที่รัฐบาลตั้งใจเร่งรัดการใช้นโยบายการคลังผ่านการใช้งบประมาณและนโยบายการเงินผ่านการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจมากขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกของปีนี้เป็นต้นไปนั้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้ความเชื่อเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรัวตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 เช่นกัน

ดังนั้น การเร่งรัดเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังน้ำท่วมคลี่คลายได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม จะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ขณะเดียวกันการดูแลราคาพลังงานและค่าครองชีพให้ปรับตัวอยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับรายได้ของประชาชนที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวมากนักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี และส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 4.5-5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ