พาณิชย์เผยปี 54 ผู้ส่งออกใช้ประโยชน์ FTA เกือบ 4 หมื่นล้านดอลล์ โต 16.95%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 10, 2012 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) เปิดเผยว่า ในรอบปี 54 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ส่งออกภายใต้ความตกลง FTA มีมูลค่าสูงถึง 39,944.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 16.95% จากปี 53 ที่มีมูลค่าเพียง 34,155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

"การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ระบบ FTA เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่ยังมีข้อจำกัดทางด้านปัจจัยการผลิตทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้หากต้องเผชิญกับอัตราภาษีปกติ" นายสุรศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ สิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้ความตกลง FTA มีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าของไทย รวมทั้งเป็นส่วนเสริมที่จะช่วยขยายโอกาสในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศได้ด้วย

ทั้งนี้มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 61.30% ของมูลค่าการส่งออกเฉพาะรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ เพิ่มขึ้น 56.79% เมื่อเทียบกับปี 53 ที่มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ โดยเขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) เป็นกรอบความตกลง FTA ที่มีมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิฯ สูงสุดด้วยมูลค่าสูงถึง 15,181.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกของประเทศไทยในภาพรวม เนื่องจากตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนกลายเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ของไทย ทดแทนตลาดเดิม เช่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

ด้านกรอบความตกลง FTA ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจกันมาใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย(TAFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึง 90.82%, ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึง 84.29%, ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย(TIFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึง 74.61%, ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึง 71.18% โดยมีข้อสังเกตว่าความตกลง FTA ที่ประเทศไทยลงนามสองฝ่ายต่างก็มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าที่สูงมาก

ส่วนข้อกังวลของกรมการค้าต่างประเทศเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า คือ ผู้ประกอบการไทยบางส่วนไม่สามารถใช้สิทธิ FTA ได้ เพราะไม่สามารถผลิตสินค้าให้เป็นไปตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าที่ไทยได้ทำความตกลงไว้กับประเทศคู่ภาคี โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่เป็นสินค้าส่งออกหลักไปต่างประเทศของไทย เนื่องจากต้องนำเข้าชิ้นส่วนวัตถุดิบจากประเทศนอกภาคีความตกลงฯ มาผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออก ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับตัวและใช้วัตถุดิบจากประเทศคู่ค้าที่ทำความตกลง FTA กับไทย เพื่อให้สามารถสะสมแหล่งกำเนิดสินค้าได้

รองอธิบดี คต.กล่าวว่า ในปีนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าที่ประเทศไทยได้รับจากประเทศคู่ภาคีมีกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า เช่น การจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มองค์ความรู้และขีดความสามารถผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และตามจังหวัดต่างๆ ให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดงานส่งเสริมการใช้สินค้า FTA โดยเฉพาะเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ