กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.7% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐขยายตัวขึ้นนั้น เป็นเพราะยอดนำเข้าสินค้าและบริการที่พุ่งขึ้น 1.3% แตะ 2.2756 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% มาอยู่ที่ 1.7876 แสนล้านดอลลาร์
สำหรับตลอดทั้งปี 2554 ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐขยายตัวขึ้น 11.6% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5.5802 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นปีที่สองติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551
โดยยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐพุ่งขึ้น 13.8% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.66114 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขนำเข้าคอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 14.5% จากปี 2553 ทำสถิติสูงสุดที่ 2.10312 ล้านล้านดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายสินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงเครื่องบินพลเรือนที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่และมีความอ่อนไหวทางการเมืองนั้น ขยายตัว 8.2% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.9546 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2554 ขณะที่ในเดือนธ.ค.เดือนเดียว ยอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 13.9% มาอยู่ที่ 2.314 หมื่นล้านดอลลาร์