อิตาลีขายตั๋วเงินคลังได้ตามเป้าหมายที่ 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.59 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมลดลงจากการประมูลครั้งก่อน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
รัฐบาลอิตาลีขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี ได้ 8.5 พันล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ย 2.230% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และลดลงจากระดับ 2.735% ในการประมูลเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ 1.09 เท่า เทียบกับ 1.47 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ การประมูลในวันนี้ยังรวมถึงตั๋วเงินคลังอายุ 127 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 1.546% ซึ่งลดลงจาก 1.644% ในการประมูลครั้งก่อน
การประมูลตั๋วเงินคลังของอิตาลีในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อการรับมือกับภาวะหนี้สินของรัฐบาลอิตาลี หลังจากที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือพร้อมใจกันลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีในเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ กำลังต่อสู้กับการลดยอดขาดดุลงบประมาณด้วยการใช้มาตรการรัดเข็มขัดและมาตรการทางภาษี ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศประสบภาวะชะงักงัน โดยรัฐบาลคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ จะร่วงลง 0.5% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์รุนแรงกว่าว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัวถึง 2.2%