สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากกรีซมีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับความช่วยเหลือครั้งที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไรก็ตาม ยูโรเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ
ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.13% แตะที่ 1.3190 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3173 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดขึ้น 0.19% แตะที่ 1.5768 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5738 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 77.570 เยน จากระดับ 77.650 เยน และขยับลง 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9164 ฟรังค์ จากระดับ 0.9173 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.69% แตะที่ 1.0734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0660 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.96% แตะที่ 0.8344 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8265 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากไอเอ็มเอฟและอียู วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งทวีความรุนแรงในกรุงเอเธนส์ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับความไม่สงบทางสังคม และอาจจะทำให้รัฐบาลประสบกับความยากลำบากในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด โดยนายจอร์จ คามินิส นายกเทศมนตรีเอเธนส์เปิดเผยว่า กลุ่มประท้วงหัวรุนแรงได้ลอบวางเพลิงอาคาร 17 แห่งในกรุงเอเธนส์ ซึ่งรวมถึงสาขาของธนาคาร 5 แห่ง หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้กำลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา
รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนจะประชุมรอบที่สองในวันพรุ่งนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อตัดสินใจว่ากรีซใช้ความพยายามมากพอหรือไม่ในการที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้ พร้อมกับตั้งเงื่อนไข 3 ข้อกับรัฐบาลกรีซ ก่อนที่จะตัดสินใจให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่ ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขดังกล่าวคือรัฐสภากรีซจะต้องอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัด
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจาก ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐจะอยู่ที่ 1.33 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2555
การคาดการณ์ของทำเนียขาวมีขึ้นไม่นานหลังจากสำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.079 ล้านล้านดอลลาร์ในงบประมาณ 2555 ซึ่งเป็นสถิติที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.