นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555(ต.ค.54-ม.ค.55) ยังคงสูงกว่าประมาณการ 9.7 พันล้านบาท แม้ผลการจัดเก็บรายได้ล่าสุดในเดือน ม.ค.55 จะต่ำกว่าเป้าหมาย 4.8 พันล้านบาท
"ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 523,416 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 9,744 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.9" นายสมชัย กล่าว
สาเหตุหลักที่สามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณมาจากการที่กรมสรรพากร กรมศุลกากร และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 3,341 1,223 และ 3,311 ล้านบาท ตามลำดับ ประกอบกับการคืนภาษีของกรมสรรพากรต่ำกว่าประมาณการ ขณะที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 7,159 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากอุทกภัยที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการจัดเก็บภาษีรถยนต์
ขณะที่เดือน ม.ค.55 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 126,383 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 4,805 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.7 โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์และภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 3,027 และ 2,663 ล้านบาท ตามลำดับ เป็นผลจากอุทกภัยช่วงปลายปี 2554 นอกจากนี้ ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,583 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายเวลาลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท จากเดิมที่ประมาณการว่าจะทยอยปรับอัตราภาษีขึ้นตั้งแต่เดือน ม.ค.55
อย่างไรก็ดี อากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,489 ล้านบาท เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ค่อนข้างสูง นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 2,806 ล้านบาท เนื่องจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและโรงงานยาสูบนำส่งเงินปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2554 เร็วกว่าที่ประมาณการไว้
"การดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์อุทกภัยจะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ดีผลกระทบด้านภาษีน้ำมันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2555 นี้" นายสมชัย กล่าว