พาณิชย์เผยจีนยกเว้นภาษีนำเข้าแก่สินค้าไทยเพิ่มเติมอีก 150 รายการ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 14, 2012 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 จีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้าแก่สินค้าไทยเพิ่มเติมอีก 150 รายการ ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งการได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งตลาดจีนเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง จึงอยากรณรงค์ให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งสินค้าดังกล่าวไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนใช้ประโยชน์จากความตกลงอาเซียน-จีน อย่างเต็มที่

สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีอัตราภาษีนำเข้าสูง เช่น ฟิล์มสำหรับใช้ในการถ่ายรูปสี (ภาษีปกติร้อยละ 40-47) รถจักรยานยนต์ (ภาษีปกติร้อยละ 40-45) สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องโกนหนวด เครื่องปิ้งขนมปัง อุปกรณ์แต่งผม (ภาษีปกติร้อยละ 30-35) สินค้าในกลุ่มอาหาร เช่น เนยเทียม ผัก/ผลไม้ดอง แยม และน้ำส้ม/น้ำมะเขือเทศ (ภาษีปกติร้อยละ 25-30) และสินค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ (ภาษีปกติร้อยละ 35) เป็นต้น

ประเทศสมาชิกอาเซียนและจีนมีข้อผูกพันในการลดภาษีระหว่างกันภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งไทยและจีนเริ่มมีการลดภาษีระหว่างกันในสินค้าเกษตรพิกัดฯ 07-08 (ผักและผลไม้) ภายใต้กรอบ Early Harvest โดยลดภาษีเป็นศูนย์ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 และการลดภาษีระหว่างอาเซียน 10 ประเทศกับจีน ในพิกัดฯ 01-08 เริ่มลดภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 สำหรับสินค้าอื่นๆ มีการลดภาษีนำเข้าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยสินค้าปกติในหมวด Normal Track I จำนวนกว่า 7,000 รายการ ลดภาษีเป็นศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 และสินค้าปกติในหมวด Normal Track II จำนวน 150 รายการ ลดภาษีเป็นศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป สำหรับสินค้าอ่อนไหว (Sensitive List) ของไทย (242 รายการ) และจีน (161 รายการ) จะมีการลดภาษีเหลือร้อยละ 0-5 ในปี พ.ศ. 2561 และสินค้าอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive List) จำนวน 100 รายการ จะมีการลดภาษีเป็นร้อยละ 50 ในปี พ.ศ. 2558

"สินค้าในหมวด Normal Track II ของจีนหลายรายการที่ได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตสูง ดังนั้น การได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งตลาดจีนเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง จึงอยากรณรงค์ให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งสินค้าดังกล่าวไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนใช้ประโยชน์จากความตกลงอาเซียน-จีน อย่างเต็มที่" นายสุรศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2554 มีการขอใช้สิทธิ FTA อาเซียน-จีน ส่งออกไปจีนมูลค่า 9,361.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้สิทธิฯ ในปี 2553 ซึ่งมีมูลค่า 7,372.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้สัดส่วนการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 84.29 เทียบกับร้อยละ 64.37 ในปี 2553


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ