นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี 56 ได้วางกรอบประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท จากประมาณการรายได้ปีงบประมาณ 55 ที่ 1.98 ล้านล้านบาท โดยการจัดทำกรอบงบประมาณปี 56 อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจขยายตัว 5% เงินเฟ้ออยู่ที่ 3-4% Norminal GDP อยู่ที่ 7-8%
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่มีผลต่อประมาณการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 56 คือผลกระทบจากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ในปี 55 และเหลือ 20% ในปี 56 รวมถึงการลดภาษีน้ำมันดีเซล ที่จะต้องรัฐบาลต้องการให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ไม่มีการบิดเบือนโครงสร้างราคา แต่การปรับขึ้นภาษีน้ำมันก็ต้องดูไม่ให้เกิดเป็นภาระต่อประชาชน นอกจากนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ซึ่งจะมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ที่ลดลง ดังนั้นจึงต้องมีการเร่งขยายฐานภาษีมากขึ้น
"โดยปกติจากตัวเลขย้อนหลังงบรายได้จะเพิ่มขึ้นปีละ 2 แสนล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ 56 จะมีเรื่องของการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงภาษีน้ำมัน ดังนั้น การวางกรอบงบประมาณปี 56 จะต้องมีการคุยกันอีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งยังเป็นงบประมาณขาดดุล แต่รัฐบาลจะยังยึดวินัยการเงินการคลัง" นายอารีพงษ์ กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 55 แม้รัฐบาลจะมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23% แต่การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่ปีงบประมาณ 56 จะยังคงยึดนโยบายการขาดดุลงบประมาณ แต่จะน้อยกว่าปีงบประมาณ 55 ที่ขาดดุล 4 แสนล้านบาท