เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินเยนญี่ปุ่น หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีและกรีซเปิดประมูลพันธบัตรด้วยผลตอบแทนที่ลดลง แม้ว่าก่อนหน้านั้นมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสจะเพิ่งประกาศหั่นลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ชาติยูโรโซนก็ตาม
เมื่อเวลา 7:26 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ยูโรละ 103.07 เยน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยแข็งค่าสูงสุดนับแต่วัน่ที่ 12 ธ.ค.ที่ 103.29 เยนเมื่อวันที่ 9 ก.พ. นอกจากนี้ยังแข็งค่าขึ้น 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 1.3196 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ยูโรยังได้แรงหนุนจากข้อมูลจากสถาบัน (ZEW) ของเยอรมนีที่รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนพุ่ง 27 จุดมาแตะที่ 5.4 จุดในเดือนนี้ หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ติดลบ 21.6 จุด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ และความคืบหน้าในการเจรจาปล่อยกู้เงินช่วยเหลืองวดใหม่ให้กับกรีซ
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน รัฐบาลอิตาลีเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ระดมทุนได้ 6 พันล้านยูโร พร้อมผลตอบแทน 3.41% ขณะที่กรีซประมูลตั๋วเงินคลังได้ 1.3 พันล้านยูโร โดยให้ผลตอบแทนลดลงมาอยู่ที่ 4.61%
ด้านเงินเยนอ่อนค่าลง 0.7% มาอยู่ที่ 78.11 เยนต่อดอลลาร์ โดยเยนร่วงหนักเมื่อเทียบดอลลาร์หลังธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจว่าจะขยายขอบเขตโครงการซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 65 ล้านล้านเยน