อินโดฯจับตาวิกฤติหนี้ยุโรป,ประเด็นช่องแคบฮอร์มุซใ หวั่นกระทบเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 15, 2012 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอากัส มาร์ทิวาร์โดโจ รัฐมนตรีคลังของอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังติดตามสถานการณ์วิกฤติในยูโรโซนและความขัดแย้งทางการเมืองในอิหร่านที่อาจนำไปสู่การปิดช่องแคบฮอร์มุซอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทั้งสองเหตุการณ์อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียอย่างรุนแรง

นายอากัสระบุว่า วิกฤติหนี้สินในยุโรปอาจส่งผลให้ยอดส่งออกของอินโดนีเซียลดลง เนื่องจากวิกฤติดังกล่าวได้บั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศที่นำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซีย

"วิกฤติหนี้สินที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่ได้ยุติลง และวิกฤติซึ่งมีต้นตอมาจากกรีซและอิตาลีมีโอกาสอย่างมากที่จะบั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก" เขากล่าว

ในขณะเดียวกัน ขุนคลังของอินโดนีเซียยังระบุว่า เหตุความไม่สงบที่ช่องแคบฮอร์มุซอาจทำให้การขนส่งน้ำมันจากประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางไปยังตลาดโลกต้องสะดุดลง ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นในที่สุด

นายอากัสกล่าวว่า ผลกระทบจากจากวิกฤติในยูโรโซนเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และทำให้องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ต่างก็ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง

องค์กรระหว่างประเทศได้เรียนรู้ว่า ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของอินโดนีเซียจะมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับวิกฤติ แต่อินโดนีเซีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจจะได้รับผลกระทบที่ย่ำแย่จากวิกฤติในยูโรโซน

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้องค์กรระหว่างประเทศปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ของอินโดนีเซียลง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปีนี้ลงสู่ 6.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6.3% สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ