โปรตุเกสประมูลขายตั๋วเงินคลังได้ทั้งหมดในวันนี้ คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านยูโร นับเป็นการเสนอขายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้องขอรับความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลงจากการประมูลครั้งก่อนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
โปรตุเกสเปิดเผยว่า การประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนมีความต้องการซื้อสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลถึง 10.3 เท่า ส่วนตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนมีความต้องการซื้อสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูล 2.5 เท่า และตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนมีดีมานด์มากกว่าที่เสนอขาย 2.0 เท่า
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนลดลงสู่ระดับ 3.845% จาก 4.068% ในการประมูลครั้งก่อน ขณะที่ตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน มีอัตราผลตอบแทน 4.332% ลดลงจาก 4.463% และตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนมีอัตราผลตอบแทน 4.943% ลดลงจาก 4.986% แม้ว่าจะยังมีความวิตกกังวลว่าโปรตุเกสอาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมเช่นเดียวกับกรีซก็ตาม
การประมูลดังกล่าวมีขึ้นในช่วงไม่กี่วัน หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกกลุ่มยูโรโซน 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่อ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น โดยได้ปรับลดอันดับเครดิตโปรตุเกสสู่ระดับ Ba3 จากเดิม Ba2
ส่วนเมื่อกลางเดือนที่แล้ว โปรตุเกสก็เพิ่งถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น สู่ระดับ BB จากเดิมที่ BBB-