สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) หลังจาก รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนได้ประกาศเลื่อนการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ ขณะเดียวกันมีรายงานจากแหล่งข่าวของสหภาพยุโรป (อียู) ว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนอาจจะเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าวไปเป็นช่วงเวลาหลังจากการเลือกตั้งของกรีซซึ่งจะมีขึ้นในเดือนเม.ย.
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.36% แตะที่ 1.3071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3118 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.11% แตะที่ 1.5699 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5681 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.18% แตะที่ 78.340 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 78.480 ดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 0.25% แตะที่ 0.9228 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9205 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.14% แตะที่ 1.0694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0679 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.30% แตะที่ 0.8340 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8315 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) แต่ได้ลดระดับการประชุมป็นเพียงแค่การประชุมทางโทรศัพท์ และได้เลื่อนการประชุมอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. เนื่องจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซยังไม่ได้ท่าทีว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขของยูโรกรุ๊ป ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวรวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อลดการใช้จ่ายมูลค่า 325 ล้านยูโรในปี 2556
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่อียูเปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนอาจจะเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าวไปเป็นช่วงเวลาหลังจากการเลือกตั้งของกรีซซึ่งจะมีขึ้นในเดือนเม.ย. โดยเป็นที่คาดการณ์กันในวงกว้างว่านายอันโตนิส ซามาราส ผู้นำพรรคนิว เดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมและถือเป็นพรรคการเมืองที่ได้คะแนนนิยมสูงสุดของกรีซ จะเป็นตัวเก็งในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่
สกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยลบมากขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศยูโรโซน โดยสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2552 ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลง 0.2% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2554
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 19.53 จุด จากระดับ 13.48 จุดในเดือนม.ค. สูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15.0 จุด และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2553
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.