ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่ง จากข่าวแบงก์ชาติยุโรปเตรียมกู้วิกฤตกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Friday February 17, 2012 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางหลายแห่งในประเทศยูโรโซนจะช่วยแบกภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้ เพื่อช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.57% แตะที่ 1.3145 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3070 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.72% แตะที่ 1.5809 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5696 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.920 เยน จากระดับของวันพุธที่ 78.330 เยน แต่ร่วงลง 0.54% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9232 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.58% แตะที่ 1.0761 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0699 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.10% แตะที่ 0.8335 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8343 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางหลายแห่งในยุโรป รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตรียมช่วยรับภาระหนี้สินของกรีซผ่านการทำธุรกรรมสว็อปหนี้ หรือการยอมรับการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางเหล่านั้นถือครองอยู่ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และเพื่อไม่ให้วิกฤตหนี้ลุกลามเป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้านี้ หลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการในประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. เนื่องจากผู้นำพรรคการเมืองของกรีซยังไม่ได้ท่าทีว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไขของยูโรกรุ๊ป

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. ร่วงลง 13,000 ราย แตะที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และตัวเลขการสร้างบ้านเดือนม.ค.ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.699 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.675 ล้านยูนิต

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ