เว็บไซต์ของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) เปิดเผยว่า FATF ได้ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย, ปากีสถาน, อินโดนีเซีย, กานา และแทนซาเนีย อยู่ในกลุ่มประเทศที่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการสกัดการฟอกเงิน
FATF ระบุว่า ในขณะนี้มี 17 ประเทศที่มีรายชื่อติดอยู่ในบัญชีดำ (blacklist) ของ FATF โดยนอกเหนือไปจาก 5 ประเทศล่าสุดที่มีรายชื่อติดโผในกลุ่มดังกล่าวแล้ว ประเทศที่เหลือประกอบด้วยโบลิเวีย, คิวบา, เอธิโอเปีย, อิหร่าน, เคนยา, พม่า, ไนจีเรีย, เกาหลีเหนือ, เซา โตเม แอนด์ ปรินซิเป, ศรีลังกา, ซีเรีย และตุรกี
ส่วน 22 ประเทศที่มีชื่อติดอยู่ในบัญชีสีเทา (grey-list) ประกอบไปด้วย แอลจีเรีย, แองโกลา, แอนติกวา แอนด์ บาร์บูดา, อาร์เจนตินา, บังคลาเทศ, บรูไน, กัมพูชา, เอกวาดอร์, เคอร์กิซสถาน, มองโกเลีย, โมร็อกโก, นามิเบีย, นิคารากัว, ฟิลิปปินส์, ซูดาน, ทาจิคิสถาน, ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก, เตอร์กเมนิสถาน, เวเนซูเอลา, เวียดนาม, เยเมน และซิมบับเว
ทั้งนี้ FATF ประมาณการว่า การฟอกเงินและอาชญากรรมด้านการเงินที่เกี่ยวข้องนั้น มีวงเงินสูงถึง 2-5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ FATF จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ พิจารณาเรื่องการป้องกันพฤติกรรมการหลบเลี่ยงภาษีและการฟอกเงิน