บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ทั้ง 5 แห่งของจีนได้ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปี 2554 เรียบร้อยแล้ว และทั้งหมดต่างก็มีกำไร โดยรายงานของทั้ง 5 บริษัทระบุว่า บริษัทไชน่า หัวนึง กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของหัวนึง อินเตอร์เนชั่นแนล มีกำไรสุทธิ 6.1 พันล้านหยวน
ในขณะที่ไชน่า เกาเตียน คอร์ป มีกำไร 6.08 พันล้านหยวน ไชน่า ตัวเตียน กรุ๊ป มีกำไร 2 พันล้านหยวน ไชน่า ต้าถัง คอร์ป มีกำไร 1.5 พันล้านหยวน และ ไชน่า เพาเวอร์ อินเวสต์เมนท์ คอร์ป มีกำไร 2.5 พันล้านหยวน
ทั้งนี้ บริษัทไชน่า เกาเตียน กรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังความร้อนเพียง 190 แห่ง เป็นบริษัทที่ถูกจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 2 ของจีนตามหลังไชน่า หัวนึง กรุ๊ป ที่มีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนมากกว่า 300 แห่ง โดยเกาเตียนมีกำไรเพิ่มขึ้น 62.1% ในปี 2554 จากจำนวน 3.75 พันล้านหยวนในปี 2553
ผลประกอบการที่โดดเด่นของไชน่า เกาเตียน คอร์ป ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งรวมไปถึงการควบคุมการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
-- นายหวัง เจี้ยน ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมถ่านหินของเขตปกครองตนเองซินเจียง อุยกูร์ คาดว่า ผลผลิตถ่านในมณฑลซินเจียงในภาคตะวันตกของจีน ซึ่งมีสัดส่วน 40% ของปริมาณถ่านหินสำรองของประเทศ อาจเพิ่มขึ้นแตะ 169 ล้านตันในปี 2555
นายหวังระบุว่า เจ้าหน้าที่ของมณฑลคาดว่าผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจะมาจากโครงการผลิตถ่านหินหลายโครงการ ซึ่งรวมไปถึงโครงการเปิดเหมืองถ่านหินของบริษัทเฉินหัว กรุ๊ป ผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดของจีน ที่มีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในปี 2555
ทั้งนี้ ผลผลิตถ่านหินของมณฑลซินเจียงขยายตัว 20.2% แตะที่ 120 ล้านตันในปี 2554 โดยจากจำนวนผลผลิตทั้งหมดของมณฑลในปี 2555 ประมาณ 20% จะเป็นการส่งออกไปยังมณฑลใกล้เคียง
-- นายจู ยงเปง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทไชน่า เกาเตียน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเกาเตียน เพาเวอร์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ กล่าวว่าว่า เกาเตียนกำลังได้รับแรงกดดันอย่างมากจากต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากข้อกำหนดในการลดการปลดปล่อยมลภาวะที่เข้มงวดมากขึ้นในระหว่างปี 2554-2558
ทั้งนี้ ไชน่า เกาเตียน จะต้องลดการปลดปล่อยซัลเฟอร์ ไดอ๊อกไซด์ และ ไนโตรเจน อ๊อกไซด์ ลง 16% และ 38.1% ตามลำดับภายในปี 2558 จากระดับที่ปลดปล่อยในปี 2553 ตามพันธกิจที่บริษัทได้ลงนามร่วมกับกระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนตั้งเป้าลดปริมาณการปลดปล่อยซัลเฟอร์ ไดอ๊อกไซด์ลง 8% และไนโตรเจน ไดอ๊อกไซด์ 10% ในระหว่างปี 2554-2558 ซึ่งเป็นข้อกำหนดของแผน 5 ปีฉบับที่ 12 ในเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อม