ธนาคารกลางจีนประกาศคงนโยบายทางการเงินอย่างรอบคอบ ขณะเผชิญกับความกดดันที่จะต้องหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆกับสกัดเงินเฟ้อ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จินซี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน หรือ PBOC กล่าวในแถลงการณ์เพียง 1 วันหลังจากที่ธนาคารกลางประกาศหั่นลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อันมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางความต้องการจากต่างประเทศที่อ่อนแอ
“ความกดดันจากการชะลอตัวของการขยายตัวและราคาที่พุ่งสูงขึ้นเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน จึงต้องวางนโยบายทางการเงินโดยรวมอย่างรอบคอบต่อ" จินกล่าวพร้อมแสดงความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในขณะนี้ยังคงมีความซับซ้อนและน่าเป็นห่วง ขณะที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนเองก็ยังไม่มีความสมดุล ความร่วมมือ และความยั่งยืนมากพอ
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา PBOC ประกาศลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน โดยปรับลดลงเหลือ 20.5% สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และ 17% สำหรับธนาคารขนาดกลางและเล็ก มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.เป็นต้นไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตรา RRR มาแล้วเมื่อเดือนธ.ค.เพื่อคลี่คลายภาวะเงินเฟ้อ
สำหรับในปี 2554 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9.2% เมื่อเปรียบเทียบกับ 1 ปีก่อนหน้านั้น โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 8.9% เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ไตรมาสเลยทีเดียว
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรชี้ระดับเงินเฟ้อ ดีดตัวกลับขึ้นมาแตะ 4% ในเดือนม.ค. หลังจากที่เดือนธ.ค.คลายตัวลงไปอยู่ที่ 4.1% อันเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน แต่เฉลี่ยตลอดปี 2554 อยู่ที่ 5.4% สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลซึ่งวางไว้ที่ 4%