นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การค้าตามแนวชายแดนได้มีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจพิเศษขึ้น รองรับการเปิดเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58 โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในนครเวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีหลายประเทศเริ่มเข้าไปลงทุน เช่น จีน, เกาหลี, เวียดนาม และญี่ปุ่น
ดังนั้นจังหวัดอุดรธานีจึงจำเป็นต้องดึงโอกาสนี้ในการเร่งพัฒนาพื้นที่การลงทุนควบคู่กับนครเวียงจันทน์ ด้วยการขยายวงแหวนรอบเมืองอุดรธานี เพื่อรองรับปริมาณรถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างแนวชายแดนที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 300 คัน/วัน ขณะที่การค้าขายบริเวณแนวชายแดนมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันไทยเข้าไปช่วยลาวในการสร้างระบบโครงข่ายฐานข้อมูลด้านการลงทุนและค้าขายให้เป็นระบบและมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน โดยลาวนับเป็นเมืองคู่ขนานในการร่วมค้าสำคัญของไทยในอนาคตที่จะช่วยสร้างมูลค่าการค้าแนวชายแดนอุดรธานีเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมามูลค่าการค้าตามแนวชายแดนระหว่างอุดรธานี-นครเวียงจันทน์ อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ซึ่งไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3-4% ส่วนในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 5-6% แต่หากโครงการลงทุนร่วมกันระหว่างจังหวัดอุดรธานีและนครเวียงจันทน์ในการขยายวงแหวนสำเร็จจะช่วยสร้างมูลค่าการค้าแนวชายแดนโตขึ้นในอนาคตถึง 5-10% ที่สำคัญจะช่วยเพิ่มความสนใจในการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เช่น จีน, ญี่ปุ่น เนื่องจากไทยได้เปรียบที่มีการพัฒนาในมาตรฐานสากล ซึ่งจะเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป