นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจของปี 2555 ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจาก 3 เรื่องใหญ่ ที่อยากให้รัฐบาลเอาใจใส่มากที่สุดคือ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายพลังงานที่ผิดของรัฐบาล, ปัญหาน้ำท่วมซ้ำสอง หากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาวอย่างรุนแรง และปัญหาการเมือง-ปัญหาความมั่นคง
"แน่นอนที่สุดเศรษฐกิจภายในประเทศเองได้รับผลกระทบจาก 3 เรื่องซึ่งเราถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด และอยากให้รัฐบาลเอาใจใส่ คือ 1. ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเรื่องค่าครองชีพ ซึ่งหากรัฐบาลยังดำเนินนโยบายที่ผิดโดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานก็จะมาซ้ำเติมตัวนี้ เรื่องที่ 2 ก็คือปัญหาที่อาจจะเกิดน้ำท่วมซ้ำ ปีที่แล้วผมคิดว่าแม้จะมีปัญหาการบริหารจัดการเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันค่อนข้างชัดเจน แต่ภาพรวมของคนทั่ว ๆ ไปอาจจะมองว่าสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าปีนี้เกิดขึ้นซ้ำสองแล้ว ผมว่าผลกระทบความเชื่อมั่น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาวจะรุนแรง เพราะฉะนั้นตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่เราก็เรียกร้องให้รัฐบาลให้ความใส่ใจ ส่วนเรื่องที่ 3 แน่นอนที่สุดก็คือปัญหาการเมือง แล้วก็ปัญหาความมั่นคงด้วย ต้องบวกเข้าไปเพราะว่าถ้ามีระเบิด ถ้ามีเหตุการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรง ถ้ามีสงครามมวลชนอะไรอย่างที่พูดกันอยู่นั้น ก็คงจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ฉะนั้น 3 เรื่องนี้คือสิ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่มากที่สุดในการที่จะประคับประคองหลังจากที่เศรษฐกิจปีที่แล้วนั้นเติบโตน้อยมาก" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้ง 3 เรื่องนั้น เรื่องแรกเป็นสิ่งที่เกิดผลกระทบต่อประชาชนแล้ว แต่อีก 2 เรื่องหลังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงจะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรง จึงอยากให้รัฐบาลมีสมาธิใน 3 เรื่องดังกล่าว
ส่วนการที่หลายหน่วยงานออกมาวิเคราะห์ตัวเลขเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ละหน่วยงานจะมีการคาดการณ์เป็นของตัวเอง ตนไม่ติดใจเพราะถือว่าตัวเลขที่ต่างกันอยู่ขณะนี้บ่งบอกอัตราการเติบโตอยู่ตั้งแต่ 4.5%ขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ใช้ได้ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเคยบอกว่าจะทำให้อัตราการเติบโตอยู่ที่ 7% ขึ้นไป
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลวินิจฉัย พ.ร.ก. 2 ฉบับในวันพรุ่งนี้ที่ขณะนี้มีการบิดเบือนเรื่องจริงเพื่อโยนความผิดมาที่การทำงานของฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการสร้างกระแสพยายามที่จะโจมตีฝ่ายค้านในหลายเรื่อง โยงไปถึงเรื่องการตั้งกระทู้ถามในสภาฯ ของประชาธิปัตย์ว่าเหมือนกับไม่ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังย้ำอีกด้วยว่า การกู้เงินดังกล่าวหากทำเป็น พ.ร.บ. ก็ไม่กระทบต่อแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล และเคยให้รัฐบาลเสนอโครงการให้ดู แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉย