ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรทรงตัว ขณะนักลงทุนไม่มั่นใจแผนกู้วิกฤตกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 22, 2012 07:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่ามาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสองจะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซได้

สกุลเงินยูโรขยับขึ้นเพียง 0.03% แตะที่ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของศุกร์ที่ 1.3239 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.37% แตะที่ 1.5783 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5841 ดอลลาร์สหรัฐ (*หมายเหตุ: ที่เทียบกับวันศุกร์เพราะตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.710 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 79.630 เยน และอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่0.9116 ฟรังค์ จากระดับ 0.9117 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.81% แตะที่ 1.0664 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0751 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.61% แตะที่ 0.8340 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8391 ดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงแรกนั้น สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการอนุมัติมาตรการช่วยเหลือกรีซรอบ 2 วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรเมื่อวานนี้ รวมทั้งข่าวที่ว่านักลงทุนภาคเอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซได้ยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะช่วยลดภาระหนี้สินของกรีซและช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้

อย่างไรก็ตาม แม้การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า แต่สกุลเงินยูโรก็ถอยร่นลงมาจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลว่ามาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสองอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซได้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของกรีซ รวมถึงอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 20.9% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของยูโรโซน

มอร์แกน สแตนเลย์คาดว่า สกุลเงินยูโรจะร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.15 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2555 เนื่องจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีก นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก หลังจากที่ได้อีซีบีได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และธ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่สกุลเงินเยนได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.48 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 33 ปี เนื่องจากยอดการส่งออกชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินเยนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G20 จะหารือกันเกี่ยวกับบทบาทของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในการผ่อนคลายความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน ในการประชุมรมว.คลังกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ที่เม็กซิโก และคาดว่าไอเอ็มเอฟอาจจะต้องระดมทุนทรัพย์จากประเทศสมาชิก ซึ่งรวมถึงประเทศนอกกลุ่มยุโรป เช่น สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ. และยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ