ผู้ผลิตถ่านหินในภูมิภาคต่างๆของจีน อาจรวมตัวกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนของรัฐบาลในปี 2555 เนื่องจากเผชิญกับความไม่สมดุลระหว่างราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงและกำไรที่อยู่ในระดับต่ำของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
ถึงแม้ว่าปัญหาระหว่างอุตสาหกรรมถ่านหินและอุตสาหกรรมพลังงานจะได้รับการแก้ไขชั่วคราวด้วยการปรับขึ้นภาษีค่าไฟ 2 ครั้งในปี 2554 แต่ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนหลายรายในมณฑลชานซี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินและไฟฟ้าขนาดใหญ่ของจีน ยังคงประสบกับความยากลำบากในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนหลายแห่งได้พยายามรวมการผลิตไฟฟ้าและการผลิตถ่านหินเข้าด้วยกันด้วยการโอนทรัพย์สินของโรงไฟฟ้าไปให้กับผู้ผลิตถ่านหินเพื่อแก้ปัญหาการขาดทุนจำนวนมากของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมระบุว่า ความร่วมมือกันในการโอนทรัพย์สินระหว่างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและผู้ผลิตถ่านหินอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ในภาคกลางและภาคใต้ของมณฑลชานซี และมูลค่าในการโอนทรัพย์สินดังกล่าวอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่สูงมาก
-- สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าถ่านหิน 16.38 ล้านตันในเดือนมกราคม 2555 ซึ่งเป็น ระดับเดียวกับในเดือนมกราคม 2554
นอกจากนี้ สำนักงานยังระบุว่า จีนส่งออกถ่านหิน 1.01 ล้านตันในเดือนมกราคม ส่งผลให้ปริมาณนำเข้าถ่านหินสุทธิในเดือนมกราคมอยู่ที่ 15.37 ล้านตัน
-- บริษัทไชน่า นิวเคลียร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนในวงเงิน 1.75 พันล้านหยวน (280 ล้านดอลลาร์) ในโครงการวิจัยและพัฒนาอิสระด้านนิวเคลียร์ในปี 2554
นายซัน ฉิน ผู้จัดการทั่วไปของไชน่า นิวเคลียร์ คอร์ปอเรชั่น ระบุว่า บริษัทได้ลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น 20% จากระดับการลงทุนในปี 2553 และหลังจากที่ใช้ความพยายามมาหลายปี บริษัทก็ได้รับผลตอบแทน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวรวมไปถึงเตาปฏิกรณ์ความเร็วสูงเครื่องแรก เทคโนโลยีการผลิตยูเรเนียมที่ทันสมัย และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์
"ขณะนี้เรากำลังนำเข้าและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์เจเนอเรชั่นที่ 3 และด้วยความเชี่ยวชาญบวกกับประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว เราตั้งใจที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ที่ก้าวหน้าและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของจีน" นายซันกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน