นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2555 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 5,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์จำนวน 255.69 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังทำการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 9,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2555 มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding) จำนวน 27,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของพันธบัตร FIDF 3 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 กันยายน 2555 วงเงิน 206,023.25 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จะนำไปให้กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศบริหารลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ให้เกิดผลตอบแทนและลดต้นทุนในการทำ Pre-funding
ด้านการชำระหนี้ของรัฐบาลในเดือนมกราคม 2555 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 19,870.15 ล้านบาท แบ่งเป็น การชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินงบประมาณรวม 16,075.16 ล้านบาท โดยชำระหนี้ในประเทศ 15,874.18 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย 15,442.54 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 431.64 ล้านบาท และชำระหนี้ต่างประเทศ 200.98 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 138.08 ล้านบาท และดอกเบี้ย 62.90 ล้านบาท
ส่วนการชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินนอกงบประมาณ กระทรวงการคลังได้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุน เพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) ก่อนกำหนดจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 3,794.99 ล้านบาท
ด้านการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ ในเดือนมกราคม 2555 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศเป็นจำนวน 20,000 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนมกราคม 2555 ได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 1,651.06 ล้านบาท