ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 27.02 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 12,938.67 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.55 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 1,357.66 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 15.40 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,933.17 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่านอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนหดตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ดีดขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 106.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับความคืบหน้าในด้านบวกของกรีซ รวมถึงการที่รมว.คลังยูโรโซนมีมติอนุมัติมาตรการให้ความช่วยเหลือรอบสองสำหรับกรีซ
สัญญาทองคำที่ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 12.8 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,771.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1771.3 - 1757.0 ดอลลาร์
-- สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) หลังจากญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เงินปอนด์ถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสนับสนุนให้ขยายโครงการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.74% แตะที่ 80.290 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 79.700 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9106 ฟรังค์ จากระดับ 0.9116 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3239 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.75% แตะที่ 1.5664 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.5783 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานว่า ภาคการผลิตและภาคบริการยูโรโซนหดตัวเหนือความคาดหมายในเดือนก.พ. และจากความกังวลที่ว่ากรีซอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 11.65 ดอลลาร์ หรือ 0.2% แตะที่ 5,916.55 จุด