สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) หลังจากญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เงินปอนด์ถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสนับสนุนให้ขยายโครงการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.74% แตะที่ 80.290 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 79.700 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9106 ฟรังค์ จากระดับ 0.9116 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3239 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.75% แตะที่ 1.5664 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.5783 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.28% แตะที่ 1.0633 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0663 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.62% แตะที่ 0.8287 ดอลลาร์ แตะที่ 0.8339 ดอลลาร์
สกุลเงินเยนร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสภาพคล่องที่สูงขึ้นในระบการเงินของญี่ปุ่นจะส่งผลให้มูลค่าของเงินเยนอ่อนแอลง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินภายในประเทศอีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 65 ล้านล้านเยน ซึ่งจะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินของญี่ปุ่นสูงขึ้นและจะสร้างแรงกดดันต่อมูลค่าของสกุลเงินเยน
ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงหลังจากรายงานการประชุมของของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า นายอดัม โพเซน และนายเดวิด ไมล์ส กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางได้สนับสนุนให้มีการขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 7.5 หมื่นล้านปอนด์ ในขณะที่กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้ขยายโครงการ QE อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งแม้ว่ามาตรการ QE จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในอีกทางหนึ่งก็จะกดดันมูลค่าของสกุลเงินปอนด์ด้วย
ส่วนสกุลเงินยูโรย่ำฐานทรงตัว หลังจากที่ร่วงลงในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานว่า ดัชนี PMI ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนหดตัวลงสู่ระดับ 49.7 จุดในเดือนก.พ. จาก 50.4 จุดในเดือนม.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 50.5 จุด และตัวเลขต่ำกว่า 50 จุดถือว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ด้านสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 4.3% ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ. และยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.