รมว.พาณิชย์ เผยรัฐบาลไทย-ลาวตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนร่วมกันขยายตัวเพิ่มเป็น 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 58 พร้อมวางแผนความร่วมมือกัน 3 ด้าน ทั้งอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน แก้ปัญหาการเข้าสู่ตลาด และร่วมมือด้านวิชาการ
"ไทยและลาวได้ร่วมกันร่างแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า ครอบคลุมในทุกมิติการค้าและการลงทุน เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน" นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของลาว
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าทั้งสองฝ่ายอีก 2 เท่าจากปัจจุบันภายในระยะเวลา 4 ปี คือ จาก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 54 เป็น 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 58
สำหรับแผนงานความร่วมมือดังกล่าว ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ 1.การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน 2.การแก้ปัญหาและอุปสรรคทางการค้าในการเข้าสู่ตลาดสินค้าของทั้ง 2 ฝ่าย เช่น การยกระดับจุดผ่านแดนถาวร/ด่านสากล การดำเนินการด้านพิธีการศุลกากร ณ จุดเดียว การแสดงสินค้าและสินค้าโอทอป และ 3.ความร่วมมือด้านวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลและกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน เป็นต้น
"การตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการลงทุนระหว่างกันเป็นไปได้แน่นอน เพราะในปี 54 การลงทุนของไทยในลาวขยับขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 3 มีมูลค่า 1,400 ล้านเหรียญฯ รองจากเวียดนาม และจีน ส่วนใหญ่ลงทุนในสาขาเหมืองแร่ และพลังงาน เกษตรกรรมและป่าไม้ อุตสาหกรรมและหัตถกรรม รวมถึงการโรงแรมและท่องเที่ยว" นายบุญทรง กล่าว
ทั้งนี้ในปี 54 การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่ารวม 3,919.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 35.8% จากปี 53 โดยการส่งออกมีมูลค่า 2,789.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้า 1,129.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น น้ำมันสำ เร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์