รายงานข้อมูลสถิติปี 2554 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ปริมาณการใช้พลังงานต่อทุกๆ 1 หมื่นล้านหยวนของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนได้ปรับตัวลดลง 2.01% ในปี 2554 ในขณะที่อัตราการลดลงแคบลง 2% จากปีก่อนหน้า
สำหรับปี 2554 จีนใช้พลังงานเทียบเท่ากับปริมาณถ่านหินมาตรฐานจำนวน 3.48 พันล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2553 ในขณะที่อัตราการขยายตัวของการใช้ถ่านหิน น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และ ไฟฟ้า อยู่ที่ 9.7%, 2.7%, 12% และ 11.7% ตามลำดับ
-- ศูนย์การขนส่งและจัดจำหน่ายถ่านหินจีนเปิดเผยว่า ปริมาณผลผลิตถ่านหินของจีนได้ปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนมกราคม
ข้อมูลสถิติของศูนย์ระบุว่า จีนมีผลผลิตถ่านหินลดลง 9.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 250 ล้านตันในเดือนมกราคม
ในขณะเดียวกัน ผลผลิตถ่านหินในมณฑลแหล่งผลิตที่สำคัญก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยผลผลิตถ่านหินของมณฑลชานซีลดลง 25% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน มาอยู่ที่ 62.42 ล้านตันในเดือนมกราคม และผลผลิตถ่านหินของเขตปกครองตนเองมองโกเลียในลดลง 18.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 56.8 ล้านตันในช่วงเวลาดังกล่าว
-- รายงานโครงการรับผิดชอบต่อสังคมประจำปีของบริษัทสเตท กริด คอร์ป ออฟ ไชน่า ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินการระบบไฟฟ้าอัจฉริยะรายใหญ่ของจีน ระบุว่าบริษัทมีแผนลงทุนในวงเงินกว่า 3 แสนล้านหยวนในระบบไฟฟ้าอัจฉริยะในปี 2555
ก่อนหน้านี้ หลิว เสิ่นหยา ผู้จัดการทั่วไปของสเตท กริด กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะประสบความสำเร็จอีกครั้งในการก่อสร้างระบบไฟฟ้าอัจฉริยะและจะทำการประชาสัมพันธ์การทำงานในเบื้องต้นของโครงการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในปี 2555
ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการระบบไฟฟ้าอัจฉริยะของบริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 89.2% ของโครงการลงทุนทั้งหมดของบริษัทในปี 2555 ซึ่งมีวงเงินประมาณ 3.362 แสนล้านหยวน สำนักข่าวซินหัวรายงาน