รัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การเริ่มดำเนินการสว็อปหนี้สำหรับผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนแล้ว โดยการสว็อปหนี้ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือสำหรับกรีซที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนไปก่อนหน้านี้
นายอนาสตาซิออส คูราคิส รักษาการประธานสภาผุ้แทนราษฎรกรีซ เปิดเผยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการเห็นขอบโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีการลงมติ เนื่องจากรัฐบาลครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
เมื่อวานนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติงส์ เพิ่งประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซจาก "CCC" สู่ระดับ "C" โดยฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่าในขณะนี้ฟิทช์มองว่าการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ “มีความเป็นไปได้สูงในระยะใกล้นี้"
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ปได้อนุมัติแผนช่วยเหลืองวด 2 วงเงิน 1.3 แสนล้านยูโร สำหรับกรีซ ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และทางการกรีซได้ประกาศตามมาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการสว็อปพันธบัตรรัฐบาลกรีซ
การปรับลดเครดิตดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ของฟิทช์เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2554 โดยฟิทช์ขู่ว่ากรีซอาจถูกขึ้นบัญชีดำผิดนัดชำระหนี้ในวงจำกัด (Restricted Default) หากการทำข้อตกลงสว็อปหนี้กรีซยังดำเนินต่อไป โดยพันธบัตรชุดใหม่จะมีกำหนดไถ่ถอนที่นานขึ้นและมีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ลดลง
สำหรับอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรรัฐบาลกรีซชุดใหม่จะอยู่ที่ 2% สำหรับช่วง 3 ปีจากก.พ.2555-ก.พ.2558 หลังจากนั้นจะอยู่ที่ 3% สำหรับช่วง 5 ปีต่อไปจากปี 2558-2563 และ 4.3% สำหรับช่วงเดือนก.พ.2563-ก.พ.2585
เงื่อนไขดังกล่าวเป็นการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรกรีซลง 53.5% และจะทำให้หนี้ค้างชำระของกรีซลดลง 1.07 แสนล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่การปรับลดมูลค่าพันธบัตรลง 50% ที่ตกลงกันไว้ในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว