รายงานการคาดการณ์และวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคของจีนโดยมหาวิทยาลัยเซี๊ยะเหมิน, เนชั่นแนล ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ สิงคโปร์ และ หนังสือพิมพ์อีโคโนมิ อินฟอร์เมชั่น เดลี่ ฉบับฤดูใบไม้ผลิระบุว่า ความไม่แน่นอนจากตลาดภายนอกประเทศนับเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจส่งผลให้จีนต้องปรับนโยบายการเงินของประเทศในช่วงครึ่งแรกปีนี้ รวมทั้งอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง ในไตรมาสที่ 2 และ 3
รายงานดังกล่าวระบุว่า จีนมีแนวโน้มที่จะปรับนโยบายการเงินเนื่องจากเศรษกิจในเขตยูโรโซนยังมีแนวโน้มที่ไม่สดใสในปีนี้ ในขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงชะลอตัว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยปรับลดลงครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อายุ 1ปีลดลงสู่ระดับ 6.06% จากระดับปัจจุบันที่ 6.56%
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังคาดว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของจีนจะลดลงอย่างมากในปีนี้ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) อาจลดลงสู่ระดับ 3.33%
แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจดีดกลับขึ้นไปสู่ระดับ 9.03% ในปี 2556 ส่งผลให้ซีพีไอปรับตัวเพิ่มเช่นเดียวกัน โดยมาอยู่ที่ระดับ 4.55%
รายงานดังกล่าวเตือนว่า การขยายตัวที่ชะลอตัวลงของตลาดโลกอาจมีผลกระทบกับการจ้างงานของจีนและรายได้ของประชาชน ดังนั้นจีนควรจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับรายได้ของประชาชนรวมทั้งส่งเสริมอุปสงค์ภายในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน