สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ภาวะการส่งออกของอินโดนีเซียในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาอ่อนตัวลง เนื่องจากปัญหาวิกฤติหนี้สินในยุโรปส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียปรับตัวลดลง
นายซูร์ยามิน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของอินโดนีเซียปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.549 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคมจากระดับ 1.881 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม
ข้อมูลสถิติของสำนักงานบ่งชี้ว่า มูลค่าการส่งออกในระหว่างเดือนก.ย., ต.ค., พ.ย. และ ธ.ค. อยู่ที่ 1.782 หมื่นล้านดอลลาร์, 1.680 หมื่นล้านดอลลาร์, 1.692 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 1.720 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ อินโดนีเซียพึ่งพาการส่งออกน้อยกว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ ในเอเชีย โดยมีสัดส่วนการส่งออกเพียง 26% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
การบริโภคภายในประเทศของอินโดนีเซีย ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากจำนวนประชากรกว่า 238 ล้านคน และการลงทุนที่กำลังขยายตัว จะช่วยชดเชยการส่งออกที่ลดลง
อย่างไรก็ดี นายซูร์ยามินกล่าวว่า มูลค่าการนำเข้าได้ลดลงสู่ 1.457 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันลดลง โดยข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่า มูลค่าการนำเข้าในเดือนก.ย., ต.ค., พ.ย., อยู่ที่ 1.510 หมื่นล้านดอลลาร์, 1.565 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 1.634 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามลำดับ