นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้กรมวิชาการเกษตรลงนามบันทึกความตกลง สำหรับโครงการความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์ The Korea Project on International Agriculture (KOPIA) ในประเทศไทย
สาระสำคัญในการบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ครอบคลุมถึงความร่วมมือ ของทั้งสองประเทศทั้งในด้านเทคนิค งบประมาณ และวัสดุ-อุปกรณ์ในการดำเนินงานของศูนย์ KOPIA ที่มีเป้าหมายเพื่อคิดค้น วิจัย พัฒนา รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ได้จากความร่วมมือ ให้แก่นักส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกรไทย ซึ่งมีกิจกรรมโครงการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรที่สองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ทั้งนี้ ทรัพย์สินทางปัญญาและลิขสิทธิ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมภายใต้การดำเนินโครงการของศูนย์ KOPIA-THAILAND ทั้งสองฝ่ายจะเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ จะดำเนินการโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
สำหรับกิจกรรมหรือโครงการที่ทั้ง 2 ประเทศจะดำเนินการร่วมกันนั้น ประกอบด้วย โครงการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรที่สองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน กิจกรรมการฝึกอบรมให้แก่นักวิจัยไทยและนักส่งเสริมการเกษตร ณ สถาบันพัฒนาชนบทและการฝึกอบรมให้แก่เกษตรกรไทย ณ ศูนย์ KOPIA — Thailand กิจกรรมงานวิจัยและพัฒนาของผู้เชี่ยวชาญเกาหลีและนักวิชาการ ณ กรมวิชาการเกษตร ในฐานะหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลัก การแลกเปลี่ยนทรัพยากรพันธุกรรมพืชบนพื้นฐานความเท่าเทียมกัน และสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบของแต่ละประเทศ
"ประเทศไทยไม่เพียงได้เทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ทันสมัยจากสาธารณรัฐเกาหลีเท่านั้น แต่ยังได้นำเทคโนโลยีเหล่านั้นถ่ายทอดสู่เกษตรกรโดยตรง โดยสาธารณรัฐเกาหลีได้ปรับสถานะเป็นประเทศที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาโดยร่วมกับประเทศที่พัฒนาแล้วและองค์กรระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับความยากจนของโลก ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม และที่สำคัญยังเป็นการเปิดช่องทางในการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมในอนาคตเพื่อที่จะช่วยให้เกษตรกรได้มีช่องทางในการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้นในอนาคตด้วย "นางสาวสุพัตรา กล่าว