นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กล่าวถึงภาพรวมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ประจำปี 2554/2555 ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ตุลาคม 2554 และได้สิ้นสุดโครงการไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยกเว้นในพื้นที่ภาคใต้ที่จะสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2555 เนื่องจากเก็บเกี่ยวล้าช้ากว่าภาคอื่น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายตามกรอบที่วางไว้ ว่า เบื้องต้นมีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำกว่า 1 ล้านราย ปริมาณข้าวที่เกษตรกรจำนำประมาณ 6 ล้าน 7 แสนตัน เป็นเม็ดเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท และจะมีปริมาณข้าวในพื้นที่ภาคใต้มารับจำนำอีกกว่า 4 แสนตัน คาดว่าเมื่อจบโครงการรับจำนำข้าวนาปีทั้งหมดแล้วจะมีเกษตรนำข้าวมารับจำนำกว่า 7 ล้านตัน รวมเม็ดเงินกว่า 130,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่าปริมาณข้าวนาปีในปีนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่ปกติผลผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 22-23 ล้านตัน แต่เนื่องจากปัญหาอุทกภัยส่งผลให้ปริมาณข้าวลดน้อยลง ประมาณ 5-6 ล้านตัน ประกอบกับเกษตรกรได้เก็บข้าวไว้บริโภคประมาณ 3 ล้านตัน จึงส่งผลให้ปริมาณข้าวที่เหลือประมาณ 14-15 ล้านตัน และเกษตรกรส่วนหนึ่งได้นำข้าวไปจำหน่ายตามแหล่งต่าง ๆ เพราะเป็นผลจากราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้น จึงมีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำเพียง 7 ล้านตัน แต่ยืนยันไม่ถือเป็นความล้มเหลวของการเปิดรับจำนำข้าวในรอบนี้
สำหรับนโยบายรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ประจำปี 2555 ที่ได้ดำเนินการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไขเหมือกับการเปิดรับจำนำข้าวนาปี ธ.ก.ส.ได้เตรียมเม็ดเงินรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังไว้กว่า 120,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่เหลือจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ที่ตั้งงบประมาณไว้ถึง 350,000 ล้านบาท แต่ใช้ไปเพียง 130,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังทั้งสิ้นประมาณ 11.1 ล้านตัน ในพื้นที่เพาะปลูก 16 ล้านไร่ทั่วประเทศ