นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) กล่าวว่า ภาคเอกชนจะเดินทางร่วมคณะกับรัฐบาลไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนหลักของไทย โดยจะมีการชี้แจงถึงแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลทั้งระยะกลางถึงระยะยาว รวมถึงเรื่องกองทุนประกันภัยที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรื(ครม.) มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ตามที่คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมประกันภัยพิบัติเสนอ ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 มี.ค.นี้ โดยอาจพิจารณาขยายความคุ้มครองกรมธรรม์ภัยพิบัติของกลุ่มธุรกิจ จากไม่เกินร้อยละ 30 เป็นไม่เกินร้อยละ 50 แต่ทั้งนี้คณะกรรมการต้องศึกษารายละเอียดให้รอบด้านก่อน แต่มีความตั้งใจที่จะลงนามความตกลงร่วมกันกับบริษัทประกันภัยในประเทศ และพร้อมที่จะขายกรมธรรม์ภายในสัปดาห์หน้า ตามเป้าหมายที่เคยได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้
โดยภาคเอกชนมีความมั่นใจว่าการเดินทางไปครั้งนี้จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้น เพราะมีผู้นำรัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำคณะไปชี้แจงทำความเข้าใจ และหลังจากนี้จนถึงเดือน เม.ย.55 รัฐบาลและเอกชนจะร่วมเดินทางไปโรดโชว์ยังประเทศอื่นๆ อีก เช่น จีน และเกาหลีใต้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตลอดจนหารือถึงแนวทางการอำนวยความสะดวกเรื่องการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ กกร.ยังได้ตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานกับทางคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และปรับปรุงกฎหมายการฟอกเงิน ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล หลังจากคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน(FATF) ได้ขึ้นบัญชีดำประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงในการฟอกเงิน ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะทำงานร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยว รวมทั้งสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อดำเนินการให้ไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น เพราะการถูกจับตามองของ FATS นั้นส่งผลให้เอกชนทำธุรกรรมทางการเงินได้ลำบาก และกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ