สกุลเงินยูโรดิ่งลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเกิดความกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ
ยูโรอ่อนค่า 0.79% เมื่อเทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3113 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของเมื่อวันจันร์ที่ 1.3218 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ก็อ่อนค่า 0.90% เทียบเงินดอลลาร์ ที่ระดับ 1.5717 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.5859 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์อ่อนค่า 0.79% เทียบเยน ที่ 80.790 เยน/ดอลลาร์ จาก 81.430 เยน/ดอลลาร์ แต่แข็งค่า 0.68% เทียบฟรังค์สวิส ที่ 0.9185 ฟรังค์/ดอลลาร์ จาก 0.9123 ฟรังค์/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 1.15% เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0544 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 1.0667 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ก็อ่อนลง 1.06% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ 0.8119 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.8206 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
การบรรลุข้อตกลงสวอปหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1.3 แสนล้านยูโรจากนานาประเทศและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางส่วนกังวลว่าเจ้าหนี้บางรายอาจคัดค้านข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด และจะส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก
นอกจากนั้นนักลงทุนยังวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจยุโรป หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยุโรปได้หดตัวลงในไตรมาสสุดท้ายปี 2554 โดยหดตัวลง 0.3% ทั้งในเขตยูโรโซนและอียู โดยยูโรสแตทให้เหตุผลว่าเกิดจากการบริโภคในภาคครัวเรือน การส่งออก และการนำเข้าของยุโรปที่ลดลง