สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังพิจารณาเรื่องโครงการซื้อพันธบัตรประเภทในรูปแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนแอลง
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9166 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9191 ฟรังค์ และดิ่งลง 0.24% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.3146 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3114 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.11% แตะที่ 1.5736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5718 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.38% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.170 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 80.860 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.38% แตะที่ 1.0587 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0547 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% แตะที่ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8118 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เฟดกำลังพิจารณาเรื่องโครงการซื้อพันธบัตรในรูปแบบใหม่ ซึ่งนักลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตรามองว่า แม้โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่จะส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ลดลง
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวก รวมถึงรายงานที่ว่าภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 208,000 ตำแหน่ง และยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 8.6% ต่อปี สู่ระดับ 2.5123 แสนล้านดอลลาร์
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความคืบหน้าของแผนปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ โดยสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถาบันการเงิน 33 แห่งที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ ได้วางแผนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการสว็อปพันธบัตร ด้วยการยอมรับการขาดทุนตามเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินสาธารณะของกรีซ
นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากอีซีบีประกาศมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (Longer Term Refinancing Operation) หรือ LTRO ด้วยการอัดฉีดเงินกู้วงเงิน 529,530.81 ล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) ให้กับภาคธนาคารของยูโรโซนเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยธนาคารทั้งสิ้น 800 แห่งที่ขอเงินกู้ดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.3%