ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ภาคขนส่งอีก 75 สตางค์/กก.และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV)ปรับเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์/กก.โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. พร้อมกันนั้นให้มีการขยายเพดานวงเงินกู้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจาก 1 หมื่นล้านบาท เป็น 3 หมื่นล้านบาท
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากมติ กบง.ดังกล่าว ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.55 เป็นต้นไป ราคา LPG จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 20.33 บาท/กก.จากปัจจุบันที่ราคา 19.58 บาท/กก. และราคา NGV จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 10 บาท/กก. จากปัจจุบันที่ราคา 9.50 บาท/กก.
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังมีมติอนุมัติให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มกรอบวงเงินกู้อีก 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่ขอไว้ 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องขออนุมัติกรอบวงเงินดังกล่าวจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ก่อน
สำหรับสาเหตุที่ต้องเพิ่มวงเงินกู้เนื่องจากสถานการณ์ราคาแอลพีจีในตลาดโลกสูงขึ้น โดยล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์/ตัน ทำให้คาดว่าจะต้องเพิ่มเม็ดเงินในการจ่ายส่วนต่างราคานำเข้า LPG มากขึ้นตาม ทั้งนี้พบว่ากองทุนน้ำมันฯ ต้องมีภาระชดเชยมากที่สุด คือ LPG ซึ่งต้องชดเชยมากถึง 4,300 ล้านบาท/เดือน
ด้านนายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการ ผอ.สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน(องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า กรอบวงเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาทแรก จากเดิมคาดว่าจะใช้หมดภายในสิ้นปีนี้ แต่เนื่องจากปัจจุบันราคาพลังงานในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก จึงอาจทำให้มีการใช้เงินในส่วนนี้หมดเร็วกว่ากำหนด ซึ่งปัจจุบันได้ใช้เงินกู้ไปแล้ว 5,300 ล้านบาท โดยเงินกู้ในส่วนที่ขอเพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.-ต.ค.55
อย่างไรก็ตาม หากการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เป็นไปตามมติกพช.อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ คาดว่าจะใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯ ทั้ง 30,000 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยได้หมดภายใน 3 ปีนับจากนี้ไป
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว. พลังงาน ระบุว่า ในที่ประชุม กบง.วันนี้ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากน้ำมันเบนซิน เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงรายวัน นอกจากนี้ยังมีเวลาเหลืออีก 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะครบ 16 มี.ค.ที่จะทบทวนว่าจำเป็นจะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในส่วนของเบนซินหรือไม่
นายคุรุจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม กบง.วันนี้ยังได้อนุมัติให้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากโรงกลั่นสตาร์ ซึ่งไม่สามารถผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 ได้ทันใน 5 มี.ค.55 สำหรับน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ในอัตรา 48 สตางค์/ลิตร เนื่องจากครบกำหนดผ่อนผันแล้ว
ขณะที่นายวีระพล จิระประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า โรงกลั่นสตาร์แจ้งว่าการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 4 ในส่วนของน้ำมันดีเซลสามารถทำได้เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของน้ำมันเบนซิน 95, เบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ขณะนี้สามารถทำตามมาตรฐานได้แล้วเช่นกัน เหลือเพียงขั้นตอนให้กรมพัฒนาธุรกิจพลังงานส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบมาตรฐานน้ำมันภายในวันนี้ก่อน ซึ่งหากพบว่าน้ำมันดังกล่าวตรงตามมาตรฐานยูโร 4 ก็ไม่จำเป็นต้องส่งเงินค่าปรับเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่อย่างใด